Exhibitionist vs Naturist

สวัสดีค่ะ วันนี้ไม่ได้มาเล่าเรื่อง แต่ละมาเล่าความแตกต่างระหว่าง Naturist (หรือที่เรียกว่าสายเน) กับ Exhibitionist หรือสายโชว์ ซึ่งเก๋เป็นอยู่นี้ค่ะ

Exhibitionist: ผู้ที่ชอบการโชว์ของลับให้ผู้อื่นเห็น ถ้าได้โชว์แล้วจะรู้สึกดี (อ่านเพิ่มที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Exhibitionism)
Naturist: ผู้ที่ชอบการเปลือยกาย ชอบอยู่กับธรรมชาติ โดยไม่เกี่ยวกับความรู้สึกของคนอื่น (อ่านเพิ่มที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Naturism)

นอกจากนี้ยังมีการเปลือยโดยอาชีพ (ที่เราดูๆกันเนี่ยแหละ) ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่นที่ถ่ายเองก็ตาม ก็มีประเภทคร่าวๆตามนี้
Nude model / Gravure idol: เป็นผู้ที่ใช้เรือนร่างเปลือยในการประกอบอาชีพ ทั้งถ่ายแบบ เดินแบบ วีดีโอ ต่างกันนิดหน่อยที่ Nude model ของฝรั่งจะเป็นแบบเปลือยหมด (ถ้าเป็นแบบอื่นจะเรียกอีกอย่าง เช่น Bikini model) ส่วน Gravure idol ของญี่ปุ่นจะมีหลายระดับ ตั้งแต่ชุดว่ายน้ำ ไปจนถึงเปลือยเกือบหมด ยกเว้นอวัยวะเพศที่จะไม่เห็น (ไม่เซ็นเซอร์นะ แต่จะใช้วิธีปิดแบบเนียนๆ)
Porn star / AV idol: อันนี้จะเป็นอาชีพมีเซกซ์แล้วถ่ายวีดีโอ , ภาพ ออกมาขาย ซึ่งก็จะแบ่งออกไปตามประเภทเซกซ์อีกเป็นแบบต่างๆ ส่วนความต่างคือ Porn star ของฝรั่งจะเห็นหมด ส่วน AV idol จะมีเซ็นเซอร์ตรงอวัยวะเพศ (พูดถึงแบบถูกกฏหมายนะ)


ทีนี้มาสรุปข้อแตกต่างกันดีกว่า (อ่านเปรียบเทียบเป็นข้อๆไปนะ)

Exhibitionist
1. เป้าหมายคือ ให้ผู้อื่นเห็นของลับของตนเอง
2. การที่โดนคนอื่นเห็นตัวเองเปลือยคือความสุข
3. ชอบอยู่ในที่ๆมีคนอยู่มากกว่า
4. ชอบเปลือยในที่สาธารณะ แม้ว่าบางทีไม่มีคนอยู่แต่ก็หวังให้มีคนมาเห็น
5. มักจะเปลือยคนเดียว หรือมีเพื่อนแต่ไม่มาก
6. ถ้ามีอารมณ์มากๆ จะจบลงที่การสำเร็จความไคร่


Naturist
1. เป้าหมายคือ ได้เปลือยกาย
2. การได้เปลือยกายคือความสุข
3. ชอบอยู่คนเดียวมากกว่า
4. ชอบเปลือยในที่ส่วนตัว ไม่มีคนนอกเห็น
5. มักจะเปลือยเป็นกลุ่ม มีสังคมเฉพาะ
6. เซกส์คือของต้องห้ามและละเมิดกฏ

ก็ประมาณนี้ค่ะ หวังว่าจะแยกแยะกันได้ถูกต้องนะคะ

ปล. อ้างอิงจากข้อ 5 ตอนนี้ในไทยก็มีกลุ่มของ Naturist แล้วนะคะ ใครสนใจถามในไลน์มาได้ค่ะ หรือโพสใน fb เก๋ได้ค่ะ (ไม่ต้อง message ใน fb นะคะ ปิดการใช้ไปแล้ว)

เที่ยวสงกรานต์ 2019 (2)

เช้าวันรุ่งขึ้นเก๋ตื่นประมาณ 8 โมงค่ะ ก็อาบน้ำ ฉี่อะไรเสร็จก็แต่งตัว โดยเก๋ใส่เป็นเสื้อกล้ามสีขาว เอวลอยค่ะ ซึ่งเก๋จะใส่เสื้อสีขาวสำหรับสงกรานต์ทุกปีอยู่แล้วค่ะ มันโชว์ได้ง่ายมากๆ ส่วนด้านล่างใส่กระโปรงยีนส์สั้นเลยก้นไปนิดหน่อยค่ะ แล้วก็ไม่ได้ใส่เสื้อคลุมอะไรทับ เก๋เดินออกไปจากห้อง ขับรถกลับไปบ้านค่ะ หลังจากขับรถเข้าบ้าน เก๋ก็เดินเข้าไปในบ้าน เจอพ่อนั่งดูทีวีอยู่ ซึ่งก็เหมือนเดิมทุกปีคือพ่อไม่ยอมไปเที่ยวไหนตอนสงกรานต์ (จะบ่นว่าคนเยอะ) ปีนี้พ่อเก๋เพิ่งเจอนิ่วในกระเพาะปัสสาวะค่ะ พ่อมีปวดมากเวลาฉี่เลยไปตรวจ (เป็นที่ รพ เอกชน คนละที่กับที่เก๋ทำงานอยู่) ก็เอกซเรย์เจอนิ่ว เค้าก็ให้ยาขับนิ่วมากินค่ะ พอพ่อเห็นเก๋ก็คุยอะไรกันตามปกติค่ะ แต่ตานี่คือมองนมเก๋ใหญ่เลย ซึ่งมันก็เห็นรอยนูนชัดแหละ ถามว่าเสียวมั้ย เก๋ไม่เสียวนะ แต่กลัวว่าท่านจะว่าอะไรมากกว่า แต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ อาจจะชินเพราะเห็นเก๋ใส่แบบนี้ทุกปี บังคับให้ใส่ชั้นในก็ไม่ใส่ซะที 55 ปีนี้น้องไม่กลับบ้านค่ะ ไปเที่ยวพัทยากับเพื่อน (แล้วก็แฟนด้วย) เก๋เลยอดโชว์เลย ไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยไปโชว์ด้านนอก เก๋เลยออกจากบ้านมาค่ะ

เก๋ตั้งใจว่าจะไปเล่นน้ำแถวสีลมค่ะ คิดว่าจะไม่เอารถไปเพราะรถน่าจะติดมาก เลยเรียกแกรปมอไซค์มารับไปที่บีทีเอส (ตั้งใจเลือกมอไซค์เลยค่ะ) สักพักก็มารับ เป็นผู้ชายขาวๆหน่อย สูง ไม่ใช่วินนะ เค้าเห็นเก๋ก็จ้องนมใหญ่เลย คงเพราะมันเห็นชัดน่ะแหละ เก๋ก็ขึ้นซ้อนค่ะ แน่นอนว่าคนอย่างเก๋ ต้องนั่งควบเท่านั้นค่ะ เก๋ก็ถกกระโปรงขึ้นก้าวขาขึ้นควบรถเลย มันก็เป็นปกติไงเพราะกระโปรงมันรัด แต่เก๋ดันถกพรวดเดียวกระโปรงขึ้นมากองที่เอวเลยค่ะ คนขี่เค้าก็เห็นจิ๋มเต็มๆเลย เค้าก็จ้องใหญ่เลย เก๋ก็ไม่ปิดค่ะ ยกขาขึ้นควบให้เห็นเลย พอขึ้นไปนั่งแล้วจิ๋มมันจะทับกับเบาะ มองไม่เห็นค่ะ แต่ด้านหลังนี่เห็นก้นเต็มๆเลย ซึ่งเค้าไม่รู้ไง ก็ขี่รถไปตามปกติ เก๋ก็โชว์ก้นไปตลอดทางเลยค่ะ เสียวจริงๆ จิ๋มก็เบียดกับเบาะ เวลาเบรกทีนี่ถูกับเม็ดเสียวเลย น้ำแฉะเปื้อนเบาะไปหมดเลยค่ะ แล้วตอนติดไฟแดงนี่คือ รถคันข้างๆ หันมามองก้นเก๋กันใหญ่เลย เสียวจริงๆค่ะ หลังจากนั้นพอถึงเก๋ก็ลง จัดกระโปรงให้เข้าที่ ก็เห็นน้ำติดอยู่ตรงเบาะเป็นรอยเลยค่ะ เก๋ก็เงียบไว้ไม่บอก 55 แล้วก็เดินขึ้นสถานีบีทีเอส

พอถึงเก๋ก็ลงจากสถานีไปตรงถนนที่คนเล่นกัน พอถึงปุ๊บก็โดนสาดน้ำปั๊บเลยค่ะ ยังไม่ทันไรเสื้อผ้าก็เปียกละ พอเสื้อขาวเปียกน้ำก็แนบเนื้อ เห็นทะลุหมดเลยค่ะ คนที่เล่นน้ำอยู่มีผู้ชายสามคน พอเห็นก็ทำตาโตใหญ่เลยค่ะ เก๋ก็ทำเป็นไม่สนใจ ประมาณว่าฉันใส่เสื้ออยู่ 55 แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ เก๋ก็โดนสาดน้ำอยู่ฝ่ายเดียว เลยทนไม่ไหว เดินเข้า 7 ซื้อปืนฉีดน้ำเลยค่ะ เข้าไปนี่อย่างเย็นเลยเพราะเปียกทั้งตัว คนก็มองกันใหญ่เลยค่ะ คงเพราะมองทะลุเห็นนมชัดมากๆ เก๋ก็ทำเป็นไม่สนใจ พอได้ปืนแล้วก็เดินออกมาเติมน้ำที่ตู้กดน้ำค่ะ (ยอมใช้น้ำดื่มเลยนะเนี่ย) แล้วก็เล่นน้ำไปค่ะ ซักพักรู้สึกปวดฉี่เลยยืนปล่อยฉี่ตรงถนนเลยค่ะ กะว่าคงเนียนๆเพราะตัวก็เปียกอยู่แล้ว อาจจะโดนสาดน้ำไรงี้ แต่ปรากฏว่าไม่ค่ะ คือเป็นช่วงที่เก๋ไม่โดนสาดน้ำ แล้วก็มีคนเห็นน้ำไหลออกมาตามขาเก๋ แล้วก็มองแบบยิ้มๆค่ะ ประมาณว่ารู้นะว่าฉี่ เก๋งี้ใจเต้นแรงเลยค่ะ

เก๋เล่นน้ำไปโชว์ไปจนเพลิน ดูนาฬิกาอีกทีก็บ่ายสามกว่าๆ หิวแล้วค่ะเพราะไม่ได้กินข้าวเที่ยง เลยแวะเข้าร้านอาหารข้างทางซึ่งก็มีให้เลือกไม่มากค่ะเพราะปิดกันหมด ร้านที่เข้าไปมันจะเป็นกึ่งๆบาร์ แบบตอนกลางคืนจะมีร้องเพลง นั่งดริงค์ ไรงี้ ตอนนี้ไม่เย็นมากเลยขายแค่อาหาร เข้าไปนี่พนักงานมองกันใหญ่เลยค่ะ คงเห็นหัวนมเก๋กันแน่ๆ เก๋ก็ไปนั่งที่โต๊ะ พนักงานก็รีบเอาผ้ามารองเก้าอี้ (มันเป็นโซฟา) บอกว่าให้นั่งทับผ้าเลย กันเก้าอี้เปียก เก๋ก็เลย อ๋อค่ะ แล้วก็ถลกกระโปรงขึ้นถึงเอวเลย แล้วก็นั่งลงบนผ้า พนักงานนี่ตาค้างเลย เก๋ก็บอกว่ากระโปรงมันเปียกเยอะมาก เลยไม่อยากให้เปียกเก้าอี้น่ะค่ะ พนักงานก็ครับๆ แบบอ้ำๆอึ้งๆ คงจะช็อคที่อยู่ดีๆก็เห็นจิ๋มเนียนๆเต็มๆ 55 หลังจากนั้นเก๋ก็สั่งอาหารมาทาน พนักงานก็เปลี่ยนกันเข้ามาเรื่อยๆ (มีสามคน เป็นผู้ชายหมด) เข้ามายืนดูแบบใกล้ๆ แต่จากมุมบนคงเห็นร่องจิ๋มไม่ชัดเท่าไหร่เพราะเก๋นั่งอยู่ เก๋ก็คิดวิธีโชว์นมแบบเต็มๆไม่ออก (ตอนนี้ก็เห็นชัดนะแต่อยากจะเอาเสื้อออก แต่เสื้อมันแนบเนื้อเลย) แล้วตอนนั้นก็มีพนักงานคนนึงเดินเข้ามาค่ะ ถือผ้ามา บอกว่าขอเปลี่ยนผ้าที่นั่งอยู่นะครับ น่าจะเปียกหมดแล้ว (พนักงานอีกสองคนก็ยืนอยู่ใกล้ๆ) ใจเก๋งี้เต้นแรงเลยค่ะ เก๋ก็รีบลุกเลย ทั้งสามก็จ้องจิ๋มเก๋ใหญ่เลยค่ะ เก๋ก็รีบบอกว่าขอผ้ามาเช็ดตัวหน่อยได้ไหมคะ ก่อนจะปู เค้าก็ยื่นให้ค่ะ เก๋ก็เอามาเช็ดตรงหน้าท้อง (เป็นเสื้อเอวลอย) ส่วนกระโปรงก็ยังไม่ได้เอาลงนะ ยืนโชว์จิ๋มไปเรื่อยๆ แล้วเก๋ก็เอาผ้ามาเช็ดหน้า ช่วงที่เอาผ้าขึ้นมาก็แอบเกี่ยวเสื้อขึ้นมาด้วย จนเสื้อเปิดเห็นนมเต็มๆเลยค่ะ เก๋ไม่เห็นแต่รู้สึกว่าความเปียกมันมาอยู่เหนือเต้านมละ แล้วเก๋ก็ทำเป็นเช็ดหน้า เช็ดหัว แอบดูทั้งสามจ้องกันใหญ่เลยค่ะ มันเสียวจนแฉะไปหมดแล้ว แล้วตอนนั้นก็มีลูกค้าอีกคนเข้ามาค่ะ เป็นคู่ชายหญิงน่าจะกลางคนละ เข้ามาก็เห็นเก๋เต็มๆสิคะ เปลือยทั้งบนทั้งล่างเลย เก๋ก็ทำเป็นเช็ดเสร็จแล้วสังเกตเห็น อุ้ย เสื้อเปิด แล้วก็ดึงลงค่ะ รวดดึงกระโปรงลงด้วย แล้วก็จ่ายตังเดินออกมาค่ะ

เที่ยวสงกรานต์ 2019 (1)

สวัสดีค่ะ วันนี้เก๋ก็มาเล่าเรื่องที่ติดค้างกันไว้นะ พอดีตอนนี้พอมีเวลา ก็เป็นเรื่องช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาค่ะ เก๋ก็ได้หยุดตั้ง 1 วันแน่ะ 55 เข้าเรื่องเลยละกัน วันก่อนวันที่จะหยุดนั้น เก๋อยู่เวรบ่ายที่ รพ เอกชน ซึ่งจะลงเวรตอนเที่ยงคืนค่ะ คืนนั้นเป็นเวรที่ผู้ป่วยค่อนข้างเยอะเนื่องจากเป็นช่วงสงกรานต์ ก็จะมีอุบัติเหตุมาบ่อยค่ะ เก๋ก็ใส่ชุดเช่นเคยคือเสื้อไซส์เล็ก ก็จะรัดๆจนเห็นรอยหัวนมเลย แล้วก็ยาวเลยชอบกระโปรงแค่นิดเดียว เวลายกแขนแค่นิดเดียวเสื้อก็เปิดเห็นเอวละ ส่วนกระโปรงก็ใส่แบบสั้นๆ เลยก้นไปแค่นิดเดียว (สั้นกว่าตอนเข้ามาใหม่ๆอีก เห็นไม่โดนว่าอะไรเลยไปตัดเพิ่มค่ะ 55) ทีนี้ช่วงประมาณ 5 ทุ่มกว่ามีรถกู้ภัยนำผู้ป่วยส่ง ขับรถมอไซค์ชน ไม่รู้สึกตัว เค้าก็ CPR กันมาตั้งแต่ในรถ พอเข็นมาถึงห้องฉุกเฉินเก๋ก็ไม่รอช้าค่ะ รีบวิ่งไปขึ้น CPR ต่อเลย ซึ่งจริงๆก็ไม่จำเป็นหรอก แต่เก๋ชอบ CPR เวลาขึ้นบนเตียงแล้วก้มตัวลงนี่กระโปรงจะร่นขึ้นเยอะมากค่ะ นึกสภาพเหมือนท่าโก่งโค้งอ่ะ ด้านหลังนี่ยังไงก็เห็นเต็มๆ แล้วเราก็มีข้ออ้างไง ท่าก็ต้องมั่นคง ขาต้องแยกให้เหมาะสม เลยทำให้กระโปรงฟิตๆ ร่นขึ้นไปอีก จนเห็นรูก้นชัดเลย ส่วนจิ๋มนี่เห็นเต็มๆอยู่แล้วไม่เหลือ กู้ภัยที่มาส่งนี่เห็นเต็มๆค่ะ เก๋ไม่ได้หันไปดูแต่รู้เพราะเค้ายืนกันอยู่ด้านหลัง หมอกับพยาบาลคนอื่นๆก็ตามเข้ามาจัดการนั่นนี่ จนเก๋ CPR ครบแล้วก็ลงเปลี่ยนค่ะ (เค้าไม่ให้เปลี่ยนตัวถ้ายังไม่ครบเวลา โชว์สบายเลย) เสร็จแล้วพอคนอื่นขึ้นเก๋ก็เดินมาถอดกางเกงผู้ป่วยค่ะ ซึ่งก็ตามปกติเลยคือต้องถอดเสื้อผ้าของผู้ป่วยออกให้หมดเพื่อทำการตรวจค่ะ เสื้อนี่ก็มีอีกคนตัดออก ส่วนเก๋ก็ดึงกางเกงลงพรวดพร้อมกางเกงในเลยค่ะ แบบไม่เกรงใจญาติเลย 55 ทุกคนในห้องก็เห็นพวงของเค้าเต็มๆเลย จู๋ไม่ยาวมาก คล้ำๆ ไข่ก็คล้ำๆ ขนเยอะมาก แล้วหลังจากนั้นก็ปั้มกันขึ้นค่ะ หลังจากมีชีพจรแล้วก็ทำการรักษาต่อไป ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการใส่สายสวนปัสสาวะ และทุกคนก็จะรู้ว่าเก๋ชอบใส่ ไม่มีใครแย่งทำค่ะ 55 เก๋ก็จับจู๋ถอกหัวออกมา แล้วก็ยัดสายใส่เลย (เล่าแบบคร่าวๆนะ) ไม่มีแข็งขึ้นมาเลยค่ะ ก็จะใส่ยากหน่อย ต่างกับคนที่รู้ตัวคือมันจะแข็งขึ้นมาหน่อยๆเวลาทำ จะใส่ง่ายกว่า พอหลังจากเริ่มโอเคแล้วพี่หัวหน้าพยาบาลก็บอกเก๋ให้ไปเปลี่ยนชุด เพราะเสื้อเก๋เปื้อนเลือดตอนที่ขึ้นปั้มหัวใจ แล้วก็บอกว่ากลับเลยก็ได้นะ ไปพักผ่อน เก๋ก็เลยสวัสดีแล้วก็ออกมาเลยค่ะ ส่วนชุดก็ไม่ได้เปลี่ยนเพราะไม่ได้เอาชุดอื่นมาด้วย ก็เดินไปที่รถทั้งชุดแบบนั้น ยามเห็นก็ทักว่า ชุดเปื้อนเลือดครับ เก๋ก็บอกว่าใช่ค่ะ มีเคสอุบัติเหตุมา แล้วก็เดินมาที่รถ ยามก็ตามมาจะโบกรถให้ เก๋ก็หาถุงพลาสติกในรถ แล้วยืนปลดกระดุม ถอดเสื้อออกตรงข้างรถเลยค่ะ ยามเห็นนมแบบเต็มๆเลยเพราะเก๋ยืนหันหน้าไปทางยาม แกก็มองตาโตเลย เก๋ก็บอกว่าขอถอดเสื้อแปปนึงนะคะ เสื้อเปื้อนเลือด แต่ในใจนี่เต้นตึกตักเลยค่ะ แล้วก็เอาเสื้อใส่ในถุง หลังจากนั้นก็ถอดกระโปรงออกค่ะ ยืนหันหน้าให้ยามเหมือนเดิม ไม่กล้าหันหลังให้เดี๋ยวดูตั้งใจโชว์เกินไป แล้วก็เอากระโปรงใส่ในถุง ยามก็แซวว่าโกนขนเนียนดีนะครับ เก๋ก็บอกเดี๋ยวนี้ไม่ได้โกนแล้วค่ะ แวกซ์เอา แต่พี่ก็เคยเห็นบ่อยๆนี่คะ ใช่ปะ เวลาหนูลงรถเห็นพี่มองประจำ (เวลาก้าวขาลงรถนี่เก๋จะกางขากว้าง กระโปรงนี่เปิดแบบไม่เหลือเลยค่ะ) ยามก็หน้าแดงใหญ่เลย แต่ก็ยังจ้องอยู่ เก๋ก็เลยขึ้นรถแล้วขับออกไป แกก็ช่วยโบกไปด้วยดูไปด้วย 55 คืนนั้นเก๋ก็ขับรถแบบเปลือยล่อนจ้อนมาที่หอค่ะ พอถึงหอจอดรถแล้ว ใจนี่เต้นแรงเลย เพราะต้องเปลือยลงจากรถ แล้วใน รพ มันไม่ได้ปลอดคนไง ถึงจะดึกแต่ก็มีหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่เปลี่ยนเวร เดินกันไปมา เก๋ก็กลั้นใจเดินลงจากรถแล้วรีบขึ้นห้องเลยค่ะ พอลงมาก็เห็นแล้วล่ะว่ามีคนอยู่ แล้วเค้าก็เห็นเราด้วยเพราะเวลาขึ้นบนตึกมันก็เปิดไฟสว่างเลย เก๋ก็ทำเป็นไม่สนใจรีบเดินขึ้นไปค่ะ กะว่ามีข้ออ้างอยู่แล้วถ้ามีคนถาม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เจอใครแบบใกล้ๆค่ะ มีแต่ที่เห็นกันห่างไปหน่อย เก๋ก็เข้าไปในห้อง ไม่ได้สนใจอะไรค่ะ ใครจะคิดยังไงก็แล้วแต่เถอะ พอถึงห้องก็อาบน้ำ แล้วก็รีบนอนเลยค่ะ เพราะต้องตื่นตอนเช้าขับรถกลับบ้าน

เก๋ฉีดยาคุมแล้วนะคะ 2

หลังจากวันนั้นที่เก๋ไปฉีดยาคุม ผ่านไปประมาณสามอาทิตย์ค่ะ วันนั้นเก๋ก็ทำงานตามปกติ ตอนนั้นคือกำลังนั่งอยู่บนเตียงคนไข้ เจาะเลือดอยู่ อยู่ๆเค้าก็พูดขึ้นมาว่า หมอครับๆ (เค้าจะเรียกพยาบาลว่าหมอค่ะ) เลือดไหลครับ เก๋ก็บอกไม่เป็นไรค่ะ ดูดออกมานิดเดียวเอง (เข้าใจว่าหมายถึงเลือดที่เจาะออกมา) เค้าก็บอกไม่ใช่ครับๆ เลือดของหมอน่ะครับ แล้วก็ชี้มาที่หว่างขาเก๋ เก๋ก็ก้มดู ตายแล้วเลือดไหลออกมาจากหว่างขา เปื้อนเตียงกับกระโปรงไปหมดเลย ตอนนั้นคือรู้สึกว่าเลือดออกจากจิ๋มละ ตอนแรกอาจจะใช้สมาธิอยู่เลยไม่รู้สึก ด้วยความที่ชินกับเลือดเก๋เลยไม่ตกใจมาก แล้วตอนนั้นเก๋ก็ดันคิดพิเรนท์ขึ้นมาอีก เก๋พูดแบบพูดกับตัวเองว่า เลือดมาจากไหนเนี่ย แล้วก็ดึงกระโปรงขึ้นมากองที่เอวเลยค่ะ ตอนนั้นคือนั่งบนเตียงอยู่ เก๋ก็อ้าขาออก ลุงเค้าก็เห็นจิ๋มเก๋เต็มๆเลย เค้าก็บอกว่า มันไหลออกมาจากจิ๋มหนูนั่นแหละ เก๋พอได้ยินก็ใจเต้นแรงเลยค่ะ แล้วก็รู้สึกกล้าขึ้นอีก เลยลุกขึ้นเดินไปที่เคาเตอร์พยาบาลทั้งๆที่กระโปรงเปิดแบบนั้นเลย เอามือกุมจิ๋มไว้ประมาณว่ามีเลือดออกนะ ส่วนก้นนี่เห็นเต็มๆค่ะ เพื่อนๆก็เข้ามาถามว่าเป็นอะไร ตอนแรกเก๋จะบอกว่าเป็นเมน แต่เปลี่ยนใจค่ะ เก๋บอกว่าไม่รู้ เลือดออกเต็มเลย หน้ามืด เพื่อนก็พยุงไปที่เตียงค่ะ ตอนที่หิ้วปีกไปคือเปิดจิ๋มโชว์เต็มๆเลยค่ะ เลือดก็หยุดไหลแล้วนะ เหลือแต่คราบที่ติดย้อยลงมาตามขา พอเอาเก๋นอนบนเตียงแล้วเพื่อนก็บอกเดี๋ยวตามหมอมาดูให้ พอเค้าไปเก๋ก็ลุกขึ้นยืน (จริงๆไม่ได้หน้ามืดค่ะ แกล้งเฉยๆ) แล้วก็ถอดกระโปรงออกเลยค่ะ แล้วตอนนั้นคิดยังไงไม่รู้ ถอดเสื้อออกด้วยค่ะ เหลือแต่ตัวเปล่าล่อนจ้อนเลย แล้วก็นอนบนเตียงเหมือนเดิม ไม่ได้เอาอะไรคลุมตัวด้วย สักพักก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน หมอน่าจะมาแล้วค่ะ เก๋งี้ใจเต้นแรงเลย แล้วเพื่อนก็เข้ามาก่อนค่ะ พอเห็นเก๋ก็ตกใจเลย ถามว่าแกแก้ผ้าทำไม เก๋ก็บอกกระโปรงมันเปื้อนเลือด เค้าก็ถามแล้วแกถอดเสื้อทำไม เก๋ก็บอกกลัวชายเสื้อเปื้อนเลือดน่ะ แล้วแกก็รู้ว่าชั้นไม่เคยใส่ยกทรง แล้วตอนนั้นหมอก็เดินเข้ามาค่ะ เก๋ก็ก้มหัวสวัสดีค่ะ แต่ไม่ได้ยกมือไหว้เพราะกลัวแขนบังนม หมอก็ทำตาโตใหญ่เลย ถามว่านี่แก้ผ้าทำไม แต่ตานี่จ้องแต่นม เก๋ก็บอกว่า เลือดไหลออกจากจิ๋มค่ะ กลัวชุดเปื้อนเลือด หมอก็ถามว่าเมนมาเหรอ เก๋ก็บอกยังไม่ถึงรอบเดือนนะคะ หมอก็บอกไหนดูหน่อยซิ เข้าทางละ เก๋ก็ชันเข่าขึ้นเลยค่ะ แยกขาออกแบบไม่มีอายเลย (ตอนนั้นคือมีหมอ มีเพื่อนพยาบาลแล้วก็ผู้ช่วยอยู่) หมอก็บอกว่า เออๆเลือดไหลออกจากรู้จิ๋มนั่นแหละ ไปหาหมอนรีเวชป่ะ (คือหมอที่มาดูเป็นหมอศัลยกรรม) เก๋ก็นุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกไปที่แผนกนรีเวช (ตอนแรกเค้าจะให้ใส่เสื้อผ้าแต่เก๋บอกว่าเดี๋ยวก็ได้ถอดแล้ว แล้วก็กลัวเปื้อน) ระหว่างทางเลือดก็มีหยดตามทางอีก รู้สึกเลยว่ามีไหลออกมา พอถึงปุ๊บที่แผนกตกใจเลย 55 แล้วก็ให้เก๋เข้าไปในห้องตรวจ เก๋ก็ไปขึ้นขาหยั่ง ด้วยความที่ใส่แต่ผ้าเช็ดตัวไง พอถอดออกก็ล่อนจ้อนหมดเลย หมอพอเข้ามาก็ตกใจเลย ปกติจะเห็นแต่จิ๋มคนไข้ แต่ครั้งนี้เห็นนมด้วย 55 แล้วเค้าก็ใช้เครื่องถ่างรูจิ๋มสอดเข้ามาดู แล้วก็ใช้นิ้วสอดเข้ามาตรวจ สรุปว่าเค้าบอกว่าเป็นเลือดที่ออกมาเพราะฉีดยาคุมค่ะ ซึ่งช่วงสามเดือนแรกเลือดจะออกไม่สม่ำเสมอ นอกรอบบ้าง มากบ้างน้อยบ้าง เดี๋ยวก็จะเป็นปกติเองค่ะ

เก๋ฉีดยาคุมแล้วนะคะ

สวัสดีค่ะ เป็นไงกันบ้าง สบายดีกันไหมเอ่ย ช่วงนี้ก็เริ่มเข้าหน้าฝนแล้วนะ แต่ก็ยังรู้สึกว่าร้อนอยู่เลย 55 ก็เรื่องวันนี้จะขอเล่าย้อนหลังไปเมื่อสองเดือนก่อนค่ะ ต้องเท้าความก่อนว่าเก๋เป็นคนที่ไม่ใส่กางเกงในค่ะ ไม่ใส่แบบ absolute เลย คือไม่มีเก็บไว้ซักตัวจริงๆ เพราะงั้นเวลาที่เก๋เมนมา ก็จะใช้ผ้าอนามัยแบบสอดค่ะ ลักษณะจะเป็นก้อน ใส่เข้าไปในจิ๋ม เก๋ใช้มานานมากแล้ว แล้วทีนี้เนี่ยเก๋เพิ่งมารู้ว่า การฉีดยาคุมเนี่ยจะทำให้ไม่มีเมนค่ะ เก๋ก็เลยคิดว่าจะลองฉีดดู ไม่ได้ใช้คุมกำเนิดนะ คือถ้าไม่มีเมนเนี่ย อะไรๆคงสะดวกขึ้นเยอะค่ะ เก๋ก็เลยตัดสินใจไปปรึกษาหมอทางนรีเวช ในโรงพยาบาลที่ทำงานอยู่เนี่ยแหละ คุยเสร็จก็สรุปนัดวันฉีดกัน ซึ่งเก๋ก็เข้าไปเจอหมอแปปเดียวแหละ คนฉีดก็คือพยาบาลค่ะ แต่คนนี้เก๋ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่เพราะอยู่คนละแผนก วันนั้นเก๋ก็ใส่ชุดพยาบาลไปเนี่ยแหละ คือไม่ได้หยุดค่ะ ฉีดเสร็จก็จะไปทำงานต่อ เค้าเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ก็เลยพาเราเข้าไปในห้องเลย ก็คือปกติจะมีนักเรียนแพทย์มาดูการฉีดยาด้วยค่ะ เก๋ก็เห็นแล้วล่ะ เป็นผู้ชาย 2 คน ดูแบบคงแก่เรียนมากอ่ะ แต่ของเก๋คือเค้าไม่ให้เข้า พอเก๋เข้าไปในห้องเค้าก็บอกให้ดึงกระโปรงขึ้น นอนคว่ำบนเตียงแล้วดึงกางเกงในลง เก๋ก็ดึงกระโปรงขึ้นพรึบเดียวมากองที่เอวเลยค่ะ แล้วก็บอกเค้าว่า ไม่ได้ใส่กางเกงในค่ะ เค้าก็จ้องจิ๋มที่ไร้ขนของเก๋ตาโตเลย คงจะเพราะตกใจมั้ง แล้วก็ให้เก๋ขึ้นไปนอนบนเตียง เก๋ก็ขึ้นไปนอนคว่ำหน้า เค้าก็เอายาคุมมาฉีดเข้าที่ก้น เจ็บจี๊ดเดียวค่ะ ไม่มาก เสร็จเค้าก็ให้ลุกขึ้น แล้วตอนนั้นเองก็มีคนไข้คนนึงเดินผ่านห้องเก๋ไป แบบจะไปอีกห้องที่อยู่ติดกัน แล้วทีนี้ก็มีนักเรียนแพทย์เดินตามมาด้วย เก๋ได้ยินเสียงคุยกันมาใกล้ๆห้องก็เลยแกล้งร้องโอ้ย แล้วก็ชันเข่าขึ้น นึกออกปะมันจะเป็นท่าคลานสี่ขาอยู่บนเตียงอ่ะ แล้วทีนี้น้องนักเรียนก็หันมาเพราะได้ยินเสียง มาเห็นด้านหลังเก๋เต็มๆ จะเหลือเหรอคะ เห็นจิ๋มเต็มๆตาแน่ เก๋งี้เสียววาบเลย คือเค้าก็เห็นเราในชุดเครื่องแบบด้วยไง แค่ไม่ได้เห็นหน้า ถ้าเค้าจำได้จะเป็นไงนะ ยิ่งคิดยิ่งเสียวค่ะ พยาบาลก็ถามว่าเป็นอะไร เก๋ก็บอกว่าลุกแล้วเจ็บก้นค่ะ เค้าก็ช่วยพยุงให้ลงจากเตียงมายืน เก๋ก็ทำช้าๆ ไม่รู้ว่าโดนมองอยู่รึเปล่าเพราะเสียงเงียบไปแล้ว พอยืนแล้วเก๋ก็ยังไม่ได้ดึงกระโปรงลงค่ะ เค้าก็บอกดึงกระโปรงลงสิ โชว์จิมิอยู่ได้ เก๋ก็ยิ่งเสียวค่ะ ดึงลงแล้วแกล้งร้องโอ้ย บอกเจ็บก้นค่ะ ดึงลงไม่ได้ จังหวะนั้นเก๋ก็หันทั้งตัวไปตรงช่องทางเดินที่จะเข้าห้องค่ะ ปรากฏว่าสองคนนั้นดูอยู่จริงๆด้วย พอเห็นเก๋หันไปหาก็รีบเดินหนีไปค่ะ เก๋งี้ใจเต้นแรงเลย พยาบาลก็บอกเห็นไหม โดนเค้าเห็นไปหมดแล้วมั้ง เก๋ก็บอกไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวขอค่อยๆดึงลงนะ มันเจ็บ เค้าก็เดินออกไปเลยค่ะ เก๋ก็รู้สึกว่าไม่ได้โชว์แล้วก็เลยอยู่ต่ออีกแปปนึงแล้วก็ดึงกระโปรงลง เดินออกไปค่ะ

หลังจากนั้นผ่านไปประมาณเกือบเดือนก็มีปัญหาเกิดขึ้นค่ะ ไว้จะมาเล่าต่อนะ

ประสบการณ์การแวกซ์ขนครั้งแรกค่ะ 2

หลังจากนั้นเก๋ก็จำใจต้องอดทนค่ะ ต้องปล่อยขนให้ยาว แล้วพอมันเริ่มยาวก็แทงขาอ่อน คันมากค่ะ เวลานั่งเก๋ก็จะแบบอ้าขากว้างๆ บางทีถ้านั่งตรงโต๊ะทำงานก็จะอ้ากว้างจนแบบ ถ้ามองจากด้านหน้านี่เห็นจิ๋มเต็มๆแน่นอนอ่ะ ขนาดนั้นเลย แต่มันเป็นโต๊ะบังไงไม่มีใครเห็น เวลาเดินก็ต้องเดินถ่างขาเหมือนโดนเยสมาเลย 55 แต่เก๋ก็อดทน จนครบหนึ่งอาทิตย์ เก๋ก็กลับไปร้านเดิมอีกครั้งหนึ่ง

คราวนี้ชุดที่เก๋ใส่เป็นประมาณนี้ค่ะ

จะเป็นชุดแบบติดกันทั้งเสื้อและกางเกงค่ะ เป็นหนึ่งในกางเกงไม่กี่ตัวที่เก๋มี ก็พอเข้าไปที่ร้านก็เหมือนเดิมค่ะ เค้าก็ให้เก๋ไปเปลี่ยนชุดแล้วรอ ก็มีพนักงานคนเดิมตามเก๋มา ตานี่เป็นมันเลย คงรอดูว่าเก๋จะโชว์แบบไหน พอเข้าไปในห้องที่มีเตียงเค้าก็ยังไม่ยื่นผ้ามาให้ค่ะ ถามเก๋ว่าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าห้องด้านนั้นไหมครับ ถามแบบนี้ก็เข้าทางเก๋สิคะ เก๋ก็ตอบว่าไม่ค่ะ ถอดตรงนี้เลยก็ได้ แล้วก็แก้เชือกออก ถอดเสื้อแล้วก็รูดถอดทั้งชุดลงไปกองที่พื้นเลยค่ะ แล้วก็มองเค้าด้วยสายตาที่จะบอกว่า ชุดมันติดกันอ่นะ เลยต้องถอดหมด เค้าก็ยิ้มแบบเห็นชัดเจนเลยค่ะ เก๋ก็ขึ้นนอนบนเตียง ชันเข่าขึ้นเหมือนเดิม แต่คราวนี้เห็นทั้งนมสองเต้าเต็มๆ เห็นทั้งจิ๋มเต็มๆ เค้าก็แบบจู๋แข็งขึ้นเลยแบบเห็นชัดมาก น่าจะไม่ได้ใส่กางเกงในค่ะ เก๋ก็ยิ่งได้ใจ อยากโชว์ขึ้นไปอีก ก็เลยถามไปว่า ขนยาวพอรึยังคะ ช่วยดูให้หน่อย แล้วก็กางขาออก คราวนี้เค้าก็เลยมองแบบเต็มๆ ไม่ต้องแอบมองแล้วค่ะ เค้าก็บอก ใช้ได้แล้วครับ เก๋ก็พูดว่า เนี่ยหนูมีขนตรงแคมด้านในด้วย จะแวกซ์ได้ไหมคะ แล้วก็ใช้นิ้วถ่างกลีบออกเลย จนแคมแบะออกเห็นแคมด้านในและรูฉี่ชัดเลย เค้าก็จ้องตาโตเลยค่ะ พยายามเก็บอาการเต็มที่ พูดว่า ไม่เห็นมีเลยครับ (จริงๆก็ไม่มีนั่นแหละ เก๋แค่อยากโชว์เฉยๆ) เก๋ก็บอกเหรอคะ รู้สึกมันแพลมๆอยู่นะ แล้วตรงรูก้นละคะ มีรึเปล่า แล้วก็ใช้มือยกขาขึ้น ก้นก็ยกขึ้นจนเห็นรูก้นเต็มๆเลยค่ะ เค้าก็บอก มีครับ เสียงสั่นๆเยอะขึ้น แล้วพนักงานอีกคนก็เข้ามาค่ะ ถามว่าทำอะไรกัน แล้วให้ลูกค้านอนโป๊แบบนี้ได้ไง เก๋เห็นกำลังจะมีเรื่องเลยรีบพูดช่วยค่ะ บอกพอดีให้พี่เค้าช่วยดูขนตรงก้นให้น่ะค่ะว่ามีรึเปล่า ส่วนชุดพอดีหนูใส่จั้มสูทมาเลยถอดแล้วล่อนจ้อนเลยน่ะค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ (ตอนที่พูดนี้เก๋ก็นึกย้อนกลับไปว่า เค้าน่าจะแปลกใจรึเปล่าที่ไม่เห็นชุดชั้นใน หรืออาจจะตื่นเต้นก็ได้นะที่รู้ว่าเราไม่ได้ใส่ชั้นใน อิอิ)  เค้าก็บอก งั้นก็ตามใจคุณลูกค้านะครับ แล้วเก๋ก็ได้นอนโชว์ทั้งนมทั้งจิ๋มแบบเต็มที่เลยค่ะ

หลังจากนั้นเค้าก็เริ่มเตรียมแวกซ์ มันจะเป็นเหมือนยางเหนียวๆ แปะแล้วอุ่นๆ เสร็จแล้วก็คลึงสักพัก เริ่มจากหัวหน่าวก่อน พอได้ที่แล้วก็ดึงพรวดออกทีเดียว ความรู้สึกตอนนั้นขอบอกว่า เจ็บแบบสุดๆค่ะ เจ็บแบบเก๋เผลอร้องโอ้ยออกมาเลย เหมือนหนังจะหลุดออกไป เค้าก็บอกนิ่งๆไว้นะครับ แล้วก็ทำแบบเดิม ดึงครั้งที่สอง ครั้งที่สาม น้ำตาก็เริ่มไหลละ พอครั้งต่อไปไปดึงตรงแคมใหญ่ เจ็บกว่าเดิมอีกค่ะ จนเก๋ฉี่เล็ดเลย คือแบบพุ่งปริ๊ดออกไปโดนหน้าพี่เค้าเต็มๆ เก๋ก็ตกใจ รีบขอโทษค่ะๆ ใหญ่เลย เค้าก็บอกน้องไปฉี่ก่อนดีกว่ามะ เก๋ก็บอกขอกระโถนหน่อยค่ะ ไม่อยากเดินออกไปแบบเปลือยๆ เค้าก็บอกน้องก็ใส่เสื้อก่อนสิครับ เก๋ก็บอกขี้เกียจใส่อ่ะค่ะ เค้าคงรำคาญเลยบอก ถ้าขี้เกียจก็ไม่ต้องใส่ครับ เห็นบอกว่าไม่เป็นไร คงจะพูดแบบประชดอ่ะค่ะ แต่เก๋เอาจริงค่ะ ลุกเดินออกไปทั้งเปลือยๆอย่างนั้นเลย เจ็บจิ๋มก็เจ็บ เดินแบบขาโก่งไป คือห้องน้ำมันต้องออกจากห้องนี้ไปก่อนค่ะ แล้วก็จะผ่านบริเวณหน้าร้านซึ่งมีคนอยู่เต็มเลย คนก็หันมามองเก๋กันเต็มเลยค่ะ สภาพแบบจิ๋มมีขนแหว่งๆ นมก็แกว่งไปมา พี่อีกคนที่เข้าไปกับเก๋ตอนแรกก็ตามออกมาค่ะ เห็นถือผ้ามาด้วยแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร ยืนดูเก๋เดินไปเข้าห้องน้ำ เก๋ก็แบบทุลักทุเลมาก พอถึงมันเป็นชักโครก เราก็ต้องทำตามแบบของเราค่ะ ถึงจะเจ็บอยู่แต่ก็ขึ้นไปนั่งยองๆ บนชักโครก ประตูก็ไม่ได้ปิด โชว์จิ๋มที่บวมแดงอยู่แบบเต็มๆเลย ซึ่งก็มีไอพี่คนเดิมตามมาดูอีกค่ะ เสร็จแล้วเก๋ก็ไปนอนให้แวกซ์ต่อ ทีนี้มันเริ่มชินกับความเจ็บแล้วไง บวกกับมีความเสียวจากเมื่อกี๊มา น้ำเก๋ก็แฉะออกมาค่ะ คือขนาดเก๋ยังรู้สึกถึงความแฉะ คนที่อยู่ตรงปลายเท้าก็ไม่ต้องพูดถึงค่ะ เห็นน้ำเยิ้มเต็มรูจิ๋มแน่ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียว น้ำก็ยิ่งออกมาอีก ดูหน้าเค้าน่าจะมีอารมณ์เหมือนกันแหละ เสร็จแล้วก็แวกซ์ขนตรงก้นต่อค่ะ ตอนแรกเค้าก็ให้ตะแคง ยกขาขึ้น พอยกเสร็จเค้าดันบอกว่าไม่ถนัด ให้เก๋นอนคว่ำ แบบคุกเข่าแล้วนั่งทับขาตัวเองอ่ะนึกออกปะ แล้วก็โก่งตัวไปด้านหน้า เก๋ก็สบายค่ะเพราะเล่นโยคะอยู่แล้ว ก้มจนก้นเปิดเห็นรูก้นชัดเจนเลยค่ะ แล้วเค้าก็แวกซ์ เก๋ก็เจ็บปนเสียว น้ำก็เยิ้มอีก คราวนี้อยู่ในท่านี้น้ำมันก็หยดแหมะลงบนเตียงเลยค่ะ (เก๋รู้เพราะตอนลุกเห็นคราบน้ำอยู่) แล้วเก๋ก็มารู้ทีหลังว่า ปกติทำท่านอนตะแคงยกขาก็แวกซ์ได้แล้ว ไม่รู้จะให้โก่งโค้งทำไมเหมือนกัน

ตอนนี้ก็พอใจมากค่ะ เรียบเนียนทั้งขนจิ๋มขนก้นหายหมด คือมันเนียนกว่าโกนอีกอ่ะ ชอบๆ คราวหลังคงไปทำอีกค่ะ

ประสบการณ์การแวกซ์ขนครั้งแรกค่ะ

สวัสดีค่ะ เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย สบายดีกันมั้ย ส่วนเก๋เองวันนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงในชีวิตครั้งใหญ่ครั้งนึงเลยค่ะ (เว่อไปปะ 55) ก่อนอื่นก็ต้องขอเล่าก่อนว่า ปกติแล้วเก๋จะเป็นคนที่โกนขนตลอดค่ะ ไม่มีแต่งทรงอะไรทั้งนั้น โกนเกลี้ยงเลยค่ะ แล้วก็โกนทุกวัน เพราะขนจะยาวเร็วมาก สองวันก็รู้สึกว่ามันทิ่มขาละ จนเมื่อก่อนก็ได้โชว์ประจำโดยไปนั่งโกนที่ระเบียงค่ะ นั่งอ้าขากันเต็มที่เลย 55 แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำละเพราะหอที่พักมันไม่มีระเบียง ก็โกนในห้องน้ำ แล้วก็เลยเกิดความคิดว่า ไปทำแวกซ์ดีไหม เพราะเห็นรีวิวว่ากว่าขนจะขึ้นก็เป็นเดือน แถมเนียนกว่า ในที่สุดก็ตัดสินใจไปค่ะ วันนั้นเก๋ก็แต่งชุดสบายๆตามปกติ เสื้อแขนกุดเอวลอย กระโปรงสั้นเอวต่ำ ก็ไปที่ร้าน เป็นร้านที่ไม่ได้ดังมากค่ะเพราะกลัวเค้าจัดสถานที่อะไรแบบมิดชิดเกิน จะไม่ได้โชว์ 55 แล้วก็เลือกร้านที่พนักงานเป็นผู้ชายด้วย ก็หาอยู่นานเลยล่ะ อ่ะทีนี้พอถึงเก๋ก็เดินเข้าไป พนักงานก็เดินเข้ามาถามว่าจะแวกซ์ที่ไหนดีครับ เก๋ก็บอกว่าแวกซ์ขนจิ๋มค่ะ พูดแบบเสียงธรรมดาเลยคือดังพอสมควรค่ะ คนก็หันมามองกันเต็มเลย เค้าก็ถามต่อว่าจะแวกซ์แบบไหน แล้วก็เอาแบบมาให้ดู เก๋ก็เพิ่งรู้ตอนนั้นว่ามีหลายแบบ ทั้งบิกินี่ไลน์ บราซิลเลี่ยน ฮอลลิวูด (อันนี้ใครอยากให้เล่าละเอียดมะ บอกด้วยละกัน) เก๋ก็เลือกแบบฮอลลิวูดค่ะ คือมันจะแวกซ์ขนเกลี้ยงคล้ายๆบราซิลเลี่ยน แต่จะแวกซ์ตรงก้นด้วย (ซึ่งปกติเก๋ไม่เคยโกนเลยนะแต่รู้ว่ามันมีขนอยู่) เค้าก็บอกว่าเข้าไปเตรียมตัวด้านในเลย พอมาถึงด้านในห้องก็มีเตียงอยู่ ตอนแรกนึกว่าจะให้นอนเลยเพราะเก๋ก็ใส่กระโปรงอยู่แล้วไง แต่เค้าก็ยื่นผ้าให้ บอกว่าให้ไปถอดกระโปรงแล้วก็เอาผ้าพันไว้เหมือนผ้าเช็ดตัว คือคงจะถอดตอนจะทำอ่ะ เก๋ก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรค่ะไม่ต้อง แล้วก็ถอดกระโปรงออกเลยค่ะ จิ๋มก็โผล่ออกมาโชว์พนักงานที่ยืนอยู่เต็มๆเลย เค้าก็จ้องตาโตเลย แล้วก็พูดแบบเสียงสั่นๆ งั้นก็ขึ้นนอนบนเตียงเลยครับ เก๋ก็ขึ้นไปนอนค่ะ แล้วก็ชันเข่าขึ้น แยกขาออกเลย เค้าก็ยืนตรงปลายเตียง มองใหญ่เลยค่ะ เก๋งี้ใจเต้นแรงเลย เค้าคงเห็นจิ๋มเก๋เริ่มแฉะขึ้นแล้วแหละ ส่วนเก๋เองก็เห็นเป้าเค้าตุงขึ้นชัดเลย นอนอยู่สักพักเลยค่ะ จนแบบแฉะไปหมดแล้ว ก็มีอีกคนเข้ามา คนนี้น่าจะเป็นคนทำ พอเค้าเห็นจิ๋มเก๋ก็พูดว่า ยังทำไม่ได้ครับ ขนสั้นเกินไป ให้ปล่อยขนให้ยาวกว่านี้ก่อน ซัก 7 วัน สรุปว่าเก๋ก็ต้องลุกขึ้นใส่กระโปรงแล้วกลับค่ะ ก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าต้องไว้ขนก่อน เป็นอะไรที่ไม่อยากทำเลยค่ะ

โรคกลัวเสื้อผ้า 2

หลังจากการตรวจในห้องฉุกเฉินเสร็จ หมอก็ให้พ่อของน้องฟ้านอนสังเกตอาการในโรงพยาบาล ส่วนน้องก็เป็นคนเฝ้าพ่อ ตอนนั้นเก๋เองรู้สึกว่าอยากรู้จักน้องมากขึ้น ถึงกับยอมลางานติดกันหลายวันเลยเพื่อมาอยู่ที่ รพ เอกชน แต่ก็ต้องแย่งกับพยาบาลผู้ชายอีกหลายคนที่อยากจะเป็นคนเข้าไปดูอาการของพ่อน้อง (เข้าไปวัดไข้ วัดความดัน อะไรงี้) ซึ่งห้องก็จะเป็นห้องเดี่ยว เป็นส่วนตัว ตามแบบของ รพ เอกชนค่ะ ครั้งแรกที่เก๋เข้าไปคือคืนนั้นเลย เข้าไปเอากระป๋องให้พ่อเก็บฉี่ตรวจค่ะ พอเข้าไปก็เห็นพ่อนอนอยุ่บนเตียง ส่วนฟ้านอนบนโซฟา ไม่ได้ใส่อะไรเลย พอเห็นเก๋เค้าก็ลุกขึ้น เก๋ก็บอกว่าให้คุณพ่อเก็บฉี่ตรวจหน่อยนะ พ่อก็ถือกระป๋องเดินเข้าไปในห้องน้ำค่ะ ช่วงนั้นเก๋เลยชวนน้องคุย เค้าก็ดูกล้าๆกลัวๆ อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับเรา แต่ก็พอได้ความว่า มีครั้งนึงตอนเด็กเค้าเกิดผื่นเต็มตัว หายใจไม่ออก พ่อก็พาไปหาหมอ ตอนแรกหมอยังไม่รู้สาเหต น้องก็นอนโรงพยาบาลอยู่หลายคืนเลยกว่าจะรู้ก็ตอนที่น้องใส่เสื้อผ้าแล้วคัน ก็เลยแก้ผ้าออกหมด แล้วก็หายคัน ค่อยๆดีขึ้น จากนั้นก็กลัวการใส่เสื้อผ้ามาก เก๋ก็ถามว่าแล้วเวลามีคนมองฟ้าโป๊ รู้สึกยังไงบ้าง (ไม่กล้าถามตรงๆค่ะ) น้องก็บอกว่าไม่รู้สึกอะไร ตอนนั้นพ่อออกมาพอดีเก๋เลยต้องออกมาเพราะหมดธุระแล้ว แต่ก็ต้องกลับเข้าไปอีกทีในเวรนั้นเพราะผลตรวจฉี่มันปนเปื้อนค่ะ เก๋ก็ถือกระป๋องเข้าไปบอกว่าฉี่ที่เก็บมันปนเปื้อน เดี๋ยวขออนุญาตเก็บให้นะคะ พ่อก็โอเค เก๋ก็ให้พ่อถอดกางเกงแล้วกางขาออก เค้าก็ทำตาม พอกางเกงหลุดก็เห็นพวงของเค้าห้อยต่องแต่งเลยค่ะ จู๋ก็แบบแข็งหน่อยๆ ถุงไข่ห้อยเห็นเป็นลูกเลยค่ะ เก๋ก็จับที่แท่ง รูดหนังหุ้มปลายออกจนหัวโผล่ แล้วก็ให้ฉี่ใส่กระโถนค่ะ พอฉี่ออกไปหน่อยนึงก็เอากระป๋องไปรอง แล้วก็เอาออกก่อนจะฉี่สุด (อันนี้เอาไปทำตามได้นะ เวลาเก็บฉี่ตรวจ) ตอนที่ทำนี่เก๋ก้มตัวลงไปข้างเตียง แล้วทีนี้กระโปรงมันก็ร่นขึ้นจนเห็นจิ๋มค่ะเพราะมันสั้นมาก กางเกงในก็ไม่ได้ใส่ น้องฟ้าที่อยู่ตรงโซฟาก็เห็นเต็มๆค่ะ แต่เค้าก็ไม่ได้พูดอะไร ส่วนพ่อนี่เก๋คิดว่าอาจจะเห็นนมนะเพราะเก๋ก้มเยอะเลย คอเสื้อเปิดแน่ๆ 

พอวันถัดมาเก๋ก็เข้าไปวัดความดันให้ เปิดเข้าไปพ่อก็นอนบนเตียงเหมือนเดิม ส่วนน้องนี่นั่งบนโซฟาแบบกางขาอ้าซ่าเลยค่ะ กลีบนี่แบะออกจนเห็นแคมด้านในเลย เค้าก็เล่นมือถือไม่ได้สนใจอะไรอ่ะนะ เก๋ก็เดินเข้าไป แต่ตานี่อดจ้องจิ๋มน้องไม่ได้ จนพ่อพูดขึ้นมาว่าแกคงชินแล้วล่ะครับ เพราะฟ้าเค้าอยู่แบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว ก็เลยเล่าให้ฟังเพิ่มว่าช่วงที่ฟ้าอายุ 5 ขวบ เคยมีผื่นขึ้นเต็มตัว แล้วหายใจแบบหอบเร็วมาก พ่อก็รีบพาไปโรงพยาบาล หมอก็ฉีดยาให้แล้วบอกว่าเป็นแพ้รุนแรง ต้องนอนโรงพยาบาล หลังจากนั้นน้องก็นอนโรงพยาบาลไป ผื่นก็ไม่ค่อยดีขึ้น จนพ่อสังเกตว่าเวลาหลังอาบน้ำใส่เสื้อผ้า น้องจะบ่นว่าคัน พ่อก็เลยให้น้องแก้ผ้าล่อนจ้อนเลย หลังจากนั้นตลอดที่นอน รพ ฟ้าก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย ผื่นก็ค่อยๆยุบลง จนหมอให้กลับบ้านได้ ตอนนั้นหมอบอกว่าน่าจะแพ้พวกผ้าใยสังเคราะห์ พ่อก็เลยซื้อพวกเสื้อผ้าหนังอะไรงี้ให้น้อง แต่ปรากฏว่าน้องตะโกนลั่นเลยค่ะ โวยวายใหญ่เลย ไม่ยอมใส่เสื้อผ้า พ่อก็ให้อยู่บ้านแบบเปลือยทั้งวันเลย ก็คือเป็นเด็กเลยไม่อะไรมาก จนผ่านไปหลายวันก็ยังเป็นเหมือนเดิม พ่อเลยพาน้องไปหาหมอเฉพาะทาง หมอก็เลยบอกว่าน้องเป็นโรค Vestiphobia อาจจะต้องใช้เวลารักษานาน แล้วเมืองไทยไม่มีการรักษาโรคนี้แบบที่เป็นคอร์ส พ่อก็เลยพาน้องตอนที่อายุ 7 ขวบซึ่งจะเริ่มเข้าเรียนแล้ว ไปอยู่ที่เมืองนอก เพื่อไปรักษา แล้วก็ไปเรียนที่นู่นเลย ซึ่งหมอที่นู่นเค้าก็ออกบัตรให้แล้วก็ติดต่อกับทางโรงเรียน คนอื่นๆจะได้เข้าใจ พ่อเค้าก็บอกว่าน้องไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอีกเลยเป็นสิบปีแล้ว คงชินและไม่ได้รู้สึกอายอะไร เก๋หันไปเห็นน้องทำหน้าเศร้าๆ ก็รู้สึกสงสารค่ะ เลยพูดกับน้องว่าไม่เป็นไรนะ พี่ก็เป็น แล้วก็ถกกระโปรงขึ้นเลยค่ะ โชว์จิ๋มแบบเต็มๆเลย ทั้งฟ้าและพ่อจ้องกันตาโตเลย เก๋ก็บอกว่าพี่เป็นโรคแพ้ชุดชั้นใน ใส่อะไรไม่ได้เลย แต่ยังดีที่ใส่ด้านนอกได้ น้องก็บอกว่ามิน่าล่ะเมื่อวานก็ไม่ได้ใส่ หนูเห็นจิ๋มเต็มๆเลย เก๋งี้เสียววาบเลยค่ะ ใจเต้นตึกตักเลย น้องก็ถามว่าเสื้อในก็ไม่ได้ใส่เหรอคะ เก๋ก็ไม่ตอบค่ะแต่ปลดกระดุมเสื้อออกหมด เปิดเสื้อให้ดูเลย หัวนมงี้แข็งเลยค่ะ คือมีพ่อน้องอยู่ด้วยไง น้องก็ยิ้มใหญ่เลย จากนั้นเก๋ก็คุยกับน้องได้สนิทขึ้นค่ะ แต่ก็ต้องไปอธิบายให้พ่อน้องฟังยาวเลยว่าเก๋โกหกน้องเพื่อให้เค้ารู้สึกดีขึ้นค่ะ

โรคกลัวเสื้อผ้า

ไม่ทราบว่าพี่ๆน้องๆ รู้จัก "โรคกลัวเสื้อผ้า" กันไหมคะ เก๋เองตอนแรกก็ไม่รู้จักหรอก เคยเห็นแต่ โรคกลัวความสูง โรคกลัวแมงมุม อะไรแบบนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งเก๋ก็ได้มารู้จักค่ะ วันนั้นเก๋อยู่เวรห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลเอกชนที่เก๋ไปทำประจำ ตอนนั้นมีแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์พลิกคว่ำข้างทาง มีผู้บาดเจ็บสองคน เค้าก็เข็นกันเข้ามาในโรงพยาบาล แบบใส่รถเข็นนอนน่ะ (คงเคยเห็นกันนะ) เป็นผู้ชายวัยกลางคน สลบไม่ได้สติ มีเลือดไหลที่หัว อีกคนเป็นเด็กวัยรุ่นน่าจะไม่เกิน 18 ที่ทำให้ทุกคนตกใจยิ่งกว่าอุบัติเหตุก็คือ น้องเค้านอนบนเปลแบบไม่ใส่เสื้อผ้าซักชิ้นเลยค่ะ ไม่มีผ้าห่มคลุมด้วยนะ กู้ภัยที่มาส่งก็บอกว่าตอนที่ช่วยมาจากรถเค้าก็ล่อนจ้อนอยู่แล้ว มีคนเอาเสื้อผ้าให้ใส่เค้าก็ปัดทิ้ง ไม่เอาๆอย่างเดียว (เค้าไม่สลบค่ะ ไม่มีแผลอะไร) เลยให้นอนมาทั้งอย่างนี้ เก๋ก็มองเค้า เป็นคนผิวดี เนียนเลยค่ะ ไว้ผมสั้น นมกำลังตั้งเต้าเป็นกระเปาะ เอวคอดสวย สะดือไม่ได้เจาะ จิ๋มมีขนบางๆ ไม่หนา ทำให้เห็นร่องชัดเจน เก๋ก็เข้าไปถามว่าชื่ออะไร เค้าก็บอกชื่อฟ้า อายุ 17 เก๋ก็ถามว่าทำไมล่อนจ้อนแบบนี้ล่ะ (ตอนถามนี่แอบใจเต้น) เค้าก็บอกไม่ชอบใส่ จากนั้นหมอก็เข้ามาถามประวัติ (หมอเป็นผู้ชายใส่แว่น แวบแรกที่เห็นนี่ทำตาโตใหญ่เลย แต่ก็พยายามทำสีหน้าปกติ) หมอก็ไม่ได้ถามเรื่องนี้ต่อ ก็ถามเรื่องอุบัติเหตุ เพราะว่าอีกคนสลบอยู่ไม่ได้สติ เลยต้องถามจากน้องอย่างเดียวเลย สรุปว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อของน้องฟ้า แล้วก็มีรถตัดหน้าเลยหักหลบ เข้าข้างทางแล้วพลิกเลย แต่ก็ไม่ได้ชนอะไร หมอก็เอาสเตทฟังปอดฟังหัวใจ มือนี่แบบไปโดนหัวนมสองสามรอบแน่ะ น้องก็เฉยๆนะไม่ได้ว่าอะไร แล้วก็เอามือกดๆลูบๆตรงท้อง แล้วก็ให้ยกแขนยกขา ตอนยกแขนไม่เท่าไหร่ แต่ตอนยกขานี่ คือเตียงมันก็สูงประมาณเอวคนทั่วไปนึกออกมะ เวลายกขาทีนี่คือเห็นจิ๋มโผล่เต็มๆเลยค่ะ แล้วหมอก็ให้น้องนอนตะแคงเพื่อตรวจก้น อันนี้คือปกติถ้าคนที่มีอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บหนักๆก็จะตรวจอยู่แล้วนะคะ เพียงแต่ปกติจะต้องคลุมม่านปิดก่อน (ต้องถอดกางเกงออกให้หมอตรวจ) แต่ของน้องคือเปลือยมาตั้งแต่แรกไง หมอก็เลยบอกว่าไม่ต้องปิดม่านละมั้ง น้องก็บอกว่าค่ะ หมอเลยจัดการตรวจก้นเลยค่ะ คนอื่นๆนี่แบบมองกันเต็มเลย มีทั้งคนป่วยคนอื่นๆกับญาติด้วยค่ะ สรุปว่าตรวจเสร็จแล้วคือน้องปกติค่ะ น้องก็เลยขอไปดูพ่อ หมอก็พยักหน้า น้องเลยลุกขึ้นเดินไปที่เตียงพ่อทั้งๆที่ยังล่อนจ้อนอย่างนั้นเลยค่ะ พยาบาลจะเอาเสื้อคลุมใส่ให้น้องก็บอกไม่เอา คือแบบปฏิเสธเสียงดังเลยจนทุกคนแปลกใจ พ่อของน้องศีรษะกระแทกเลยสลบไปค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมาก หลังจากนั้นก็ตื่นขึ้น แล้วก็เลยเล่าให้ทุกคนฟังว่า น้องป่วยเป็นโรค Vestiphobia หรือโรคกลัวเสื้อผ้า คือเวลาที่ใส่เสื้อผ้าจะมีอาการใจสั่น มือสั่น เกร็งไปหมด บางทีก็เป็นลม คือใส่อะไรไม่ได้เลย ก็เลยต้องให้น้องไปเรียนที่ต่างประเทศค่ะ + รับการรักษาด้วย เพราะที่นั่นเค้าจะล่อนจ้อนอยู่ในโรงเรียนได้ แต่ตอนนี้คือปิดเทอม น้องเลยกลับมาที่บ้านค่ะ

ไปตรวจปอดมาค่ะ

สวัสดีค่ะ วันนี้เก๋ก็จะมาแชร์เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนนี้เองค่ะ คือที่ รพ ที่เก๋ประจำอยู่เนี่ยเค้าให้ทุกคนที่ทำงานในโรงพยาบาลไปเอกซเรย์ปอดค่ะ เพื่อเป็นการตรวจสุขภาพแล้วก็เป็นข้อมูลไว้ ซึ่งก็อย่างที่หลายคนรู้แล้วว่าปกติเก๋จะไปตรวจสุขภาพทุกปีที่โรงพยาบาลเอกชน เพราะฉะนั้นที่ รพ นี้เก๋ไม่เคยตรวจเลยค่ะ วันนั้นเก๋ก็ไปช่วงบ่ายๆ (เค้าให้เลือกไปตอนไหนก็ได้) ในเวลางานนี่แหละค่ะ ตอนนั้นคือเก๋อยู่ที่หอผู้ป่วย เก๋ก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าผู้ป่วย หยิบเสื้อออกมา คือเวลาเอกซเรย์เนี่ยผู้หญิงเค้าจะให้ใส่เสื้อบางๆ เพราะไม่งั้นรังสีจะไม่ทะลุ ซึ่งก็คือเสื้อที่ให้ผู้ป่วยใส่นี่แหละค่ะ ส่วนผู้ชายก็ถอดเสื้อเลย เก๋ก็ไปที่เปลี่ยนเสื้อผ้า จัดการถอดเสื้อออกแล้วใส่เสื้อผู้ป่วยแทน เสื้อมันจะเป็นตัวหลวมๆ บางๆ เห็นรอยหัวนมชัดเลยค่ะ เปลี่ยนเสร็จเก๋ก็เอาเสื้อไปฝากกับเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน เค้าก็ถามว่าเปลี่ยนชุดทำไม เก๋ก็บอกว่าเดี๋ยวจะไปเอกซเรย์ เค้าก็บอกว่าในห้องเอกซเรย์ก็มีให้เปลี่ยน เก๋ก็ อ้าวเหรอ ไม่เคยรู้ 55 แต่เปลี่่ยนไปแล้ว ช่างเถอะ แล้วก็เดินออกมานอกตึกเลยค่ะ เดินมาจนถึงห้องเอกซเรย์ซึ่งอยู่คนละตึก ระหว่างทางนี่คนมองกันเต็มเลยค่ะ เพราะเก๋เนียนๆเอามือดึงชายเสื้อ ให้เสื้อมันแนบกับนมจนเห็นรอยหัวนมชัดเลย พอถึงห้องเอกซเรย์เค้าก็บอกให้ต่อคิว เก๋ก็ไปนั่งรอ ได้โชว์คนที่อยู่แถวนั้นอยู่สักพักเค้าก็เรียกเข้าห้องไป ทีนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่บอกให้ยืนติดกับแผ่นที่อยู่ติดกับผนัง (เป็นแผ่นที่รับรังสี) ตอนนั้นเองเก๋ก็ดึงเชือกที่ผูกเสื้อออก (เสื้อจะใช้วิธีผูกแทนกระดุม) แล้วก็ถอดเสื้อออกเลยค่ะ ด้วยความที่มันถอดง่ายเลยทำให้เก๋ถอดแบบเดียว ไม่มีใครห้ามทัน เจ้าหน้าที่ก็บอกตามหลังมา ไม่ต้องถอดเสื้อครับ เก๋ก็หันไปทั้งตัวไปทางเจ้าหน้าที่ อ้าวเหรอคะ มือก็ไม่ได้ปิดค่ะ โชว์หัวนมเต็มๆเลย มีเจ้าหน้าที่อยู่สามคน ผู้ชายหมด มองกันตาโตเลย เค้าก็บอกไม่เป็นไรๆครับ งั้นก็หันเอาด้านหน้าแปะกับแผ่นนั้นเลยครับ เก๋ก็ทำตาม หลังจากเอกซเรย์เสร็จเก๋ก็หันหน้าไปขอบคุณเค้าอีกนะ จริงๆคือกะโชว์อีกรอบ 55 แล้วก็ใส่เสื้อตัวเดิม เดินกลับไปเปลี่ยนที่ตึกค่ะ หัวนมตอนกลับนี่ยิ่งแข็งชูเลยค่ะ